วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บทความเกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.

        การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ ก็คงจะเหมือนกับครั้งก่อนๆ รัฐมีรัฐธรรมนูญ-กฎหมาย-กฎเกณฑ์ กติกา ในการเลือกตั้งค่อนข้างดี แต่กลไกในการบังคับใช้กฎหมายไม่เคยมีประสิทธิภาพ นักการเมืองตัวโกงยังคงกำเริบเสิบสานมากขึ้นเรื่อยๆ ฤดูการเลือกตั้งเริ่มมาได้ไม่เกินสองสัปดาห์ เราได้เห็นนักการเมือง-พรรคการเมืองตัวโกงละเมิดกฎหมายกันแล้วอย่างแพร่หลายที่สำคัญคือ
        1. มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันแล้วอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด พรรคใหญ่ซื้อหัวคะแนนเสียงไว้ก่อนแล้วเป็นระยะยาว พวกเขามีเล่ห์เหลี่ยมในการทำผิดกฎหมาย โดยไม่ทิ้งหลักฐานให้ถูกจับได้
        2. นักการเมืองใช้สื่อมวลชนสร้างกระแส-บิดเบือนข่าวอย่างไม่เท่าเทียมกัน โดยตรวจสอบได้ยาก ก.ก.ต.มองไม่เห็นหรอกว่าคนของพรรคการเมืองใดเป็นเจ้าของ-ผู้ถือหุ้น-ผู้ให้ทุน (ผ่านญาติมิตรข้าทาสบริวาร) ก่อตั้ง-ดำเนินการสถานีโทรทัศน์ Asia Update, เคเบิลทีวี, วิทยุชุมชน, เผยแพร่ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ฯลฯ การให้โอกาสเท่าเทียมกันในการหาเสียงของผู้สมัคร/พรรคการเมือง เป็นประเด็นสำคัญที่จะตัดสินว่าการเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่
       3. เราถูกบังคับโดยกฎหมายให้ไปทำหน้าที่เลือกตั้ง ส.ส. ให้เลือกผู้สมัคร/พรรคที่ดีที่สุด หรือคน/พรรคที่เลวน้อยที่สุด แต่ความจริงได้ปรากฏให้ประจักษ์แล้วว่าการเมืองไทยมีอาการวิปริตถึงขั้นวิกฤต ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งมากกว่าครึ่งหนึ่งจะไปใช้สิทธิเลือกรัฐบาล (ไม่ใช่เลือก ส.ส.) จำนวนมากในจำนวนนี้จะไปเลือกคน/พรรคเพื่อไทยเพราะไม่ชอบคนพรรคประชาธิปัตย์   ในทางตรงกันข้ามไปเลือกคน/พรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ชอบคน/พรรคเพื่อไทย เพราะไม่อยากเห็นพรรคที่ตนเกลียดได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ใครจะกล้าพูดได้เต็มปากว่านี่เป็นการเลือกตั้งส.ส.ในระบอบประชาธิปไตย
       4. ทางเลือกของเราคือ (1) ประท้วงโดยการไม่ไปลงคะแนนซึ่งจะต้องเสียสิทธิบางประการ  (2) ประท้วงโดยไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้ง แต่กาช่อง “ไม่ประสงค์ลงคะแนน” หรือ (3) ยอมร่วมมหกรรมการโกงครั้งนี้ด้วยโดยการกาให้พรรคการเมืองและผู้สมัครอย่างละหนึ่งเสียง เป็นการช่วยกันออกประกาศนียบัตรรับรองความชอบธรรมให้แก่ ส.ส. และรัฐบาลที่เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ข่าวเด่นของท้องถิ่น

                      อบต.หนองโพนงาม-ชัยภูมิป่วน ปลัดอัดนายกฯย้ายไม่เป็นธรรม

             ชัยภูมิ:นางคณัฐนันท์ อนันท์สินชัย ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หนองโพนงาม อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตนเองได้เดินทางมาให้ปากคำกับคณะกรรมการที่ ที่ว่าการอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ในกรณีที่ตนเองถูกนายก อบต.หนองโพนงาม กลั่นแกล้งเพื่อต้องการ ให้ย้ายตนเองออกนอกพื้นที่ ตนเองจึงจำเป็นต้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคบบัญชา และพร้อมที่จะแฉขบวนการทุจริตใน อบต.หนองโพนงามทั้งหมด เพราะตนเองไม่ยอมเซ็นหลายโครงการทำให้นายกไม่พอใจ ในเบื้องต้นได้ส่งข้อมูลให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แล้ว แต่ส่วนข้อมูลที่จะเปิดเผยนั้น เป็นเรื่องซอยงานได้เสียในสัญญารับเหมา ผลประโยชน์กับการรับเงิน รายระเอียดะแจ้งเมื่อตนเองได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน และตนเองรู้ล่วงหน้าแล้วว่าฝ่ายบริหารจะพยามหาเรื่องมาใส่ร้ายตนโดยมีจุดประสงค์ต้องการให้ตนออกจากพื้นที่ และตนเองก็พร้อมจะชี้แจง ปัญหาต่างๆ

                 ด้านนายปฏิทัศน์ บัวหนองท้องถิ่นอำเภอ กล่าวว่า กรณีที่ร้องกันนั้น ทางอำเภอไม่มีอำนาจได้ส่งเรื่องไปให้ อบต.หนองโพนงาม ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบปลัด อบต.หนองโพนงาม ให้สรุปมาที่อำเภออีกครั้งหนึ่ง ส่วนประเด็นที่ ปลัด อบต.ทำผิดนั้นมีอะไรบ้าง เบื้องต้นมีการดำเนินงานซื้อวัสดุไม่ผ่านการจัดซื้อจัดจ้าง พูดจาไม่สุภาพกับเพื่อนร่วมงาน ยุแยงให้องค์กร แตกแยก ชอบมาทำงานสาย ชอบกลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชา นำเอาเรื่องผู้บังคับบัญชาไปพูดให้ชาวบ้านเกียจ และชอบขืนใจผู้ใต้บังคับบัญชา

เรื่องราวเกี่ยวกับท้องถิ่น





   ตำบลหนองโพนงาม แยกจากตำบลบ้านเป้า อำเภอเกษตร
สมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ มาตั้งเป็นตำบลหนอง โพนงาม เมื่อ พ.ศ. 2513 มีกำนันคนแรก คือนายสิงห์ มงคล คนที่ 2 คือ
นายน้อย สูงภิไลย์ และคนที่ 3 คือ นายประยูร แม้นชัยภูมิ ได้ยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพนงาม เมื่อ พ.ศ. 2539 ตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล
พ.ศ.2537
  ตำบลหนองโพนงาม เป็นตำบลในเขตการปกครองของ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ มีลำห้วยทิกเป็นลำน้ำ สายหลัก ณ ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพนงาม มีทั้งหมด
15 หมู่บ้าน


คำขวัญประจำท้องถิ่น

วัดป่าห้วยกุ่มเลื่องลือ    นามระบือน้ำตกทับแข้
หินดักแด้แหล่งไดโนเสาร์   ยอดภูเป้างามเลิศล้ำ
นามประเสริฐ  คือ หนองโพนงาม

สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน

สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านโครงสร้าง
พื้นฐาน(ระบบบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน)ข้อมูลทั่วไป  (2552)

1.1 ด้านกายภาพ
   องค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพนงามเป็น อบต.ขนาดกลาง  มีพื้นที่ 252  ตาราง กิโลเมตรหรือ 157,500 ไร่ อยู่ห่างจากอำเภอเกษตร-สมบูรณ์ 22 กิโลเมตรและอยู่ห่าง จากตัวจังหวัดชัยภูมิ 120 กิโลเมตร อาณาเขต  
ทิศเหนือ ติดเขตตำบลทุ่งลุยลาย และตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร
จังหวัดชัยภูมิ
ทิศใต้    ติดเขตตำบลบ้านเป้า อำเภอเกษตรสมบูรณ์  จังหวัดชัยภูมิ
ทิศตะวันออก ติดเขตตำบลบ้านแก้ง  อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
ทิศตะวันตก  ติดเขตตำบลกุดเลาะ  อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ
1.2. ด้านสังคม 1.2.1 ประชากร
 องค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพนงามมีประชากร สำรวจ ณ วันที่  30 กันยายน 2551 จำนวน 12,560 คน มีชาย 6,305 คน หญิง 6,255 คน  มีหมู่บ้านทั้งหมด 15 หมู่บ้าน 3,343 หลังคาเรือน มีความหนาแน่นเฉลี่ย 50 คน/ตารางกิโลเมตร พื้นที่ประมาณ 30  เปอร์เซ็นต์เป็นที่ตั้งของบ้านเรือนราษฎร อีก 70  เปอร์เซ็นต์เป็นพื้นที่การเกษตรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
1.3 ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
  1.3.1 ถนน 
         ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพนงามรวมระยะทางของถนนประมาณ  40 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตส่วนถนนเข้าสู่พื้นที่การเกษตร
เป็นถนนลูกรัง ซึ่งมีพื้นที่ยาวมากบริเวณ หมู่ 1,11ส่วนถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 4,5,11,12,13 เป็นถนนลาดยางมีสภาพเป็นหลุม เป็นบ่อในช่วงฤดูฝน ส่วนถนน
ภายในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นถนนคอนกรีต และหินคลุก
 1.3.2 ไฟฟ้า 
             มีการขยายเขตไฟฟ้าแรงต่ำในบริเวณที่เริ่มมีประชาชนขยับขยายที่อยู่อาศัยมาอยู่ริมถนน  การขยายเขตไฟฟ้าสาธารณะก็เริ่มครอบคลุมเกือบทุกหมู่บ้านแล้ว  และมีการติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
1.3.3 น้ำประปา
   ในปีงบประมาณ พ.ศ.2548 และปีงบประมาณ พ.ศ.2549  มีการก่อสร้างหอถังประปาหมู่บ้านเพิ่มเติมใน หมู่ 2,4,5,8,13,11 ที่เคยมีปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคเหล่านั้นหมดไป        ส่วนระบบประปา ของการประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการเข้าหมู่ 4 และหมู่ 12  เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยค่าการติดตั้งมาตรวัดน้ำที่
มีราคาแพงทำให้ประชาชนในหมู่บ้านยังใช้น้ำของประปาบาดาลในหมู่บ้าน
1.4ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
   บริเวณพื้นที่ในเขต อบต. มีพื้นที่ป่าไม้ คือ เขื่อนห้วยกุ่มซึ่งมีการห้ามตัดทำลายป่าทำให้สภาพป่า   ได้รับการฟื้นฟูสภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น บริเวณรอบๆ หมู่บ้านซึ่งป่าเหล่านี้เริ่มที่จะฟื้นสู่สภาพป่าที่ดีขึ้น ในส่วนของแม่น้ำลำคลองเริ่มมีปัญหาจากการที่แม่น้ำลำคลองต้องรับสารพิษจากพื้นที่การเกษตรที่มีการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงในพื้นที่การเกษตรทำให้ปลาที่อยู่ในลำห้วยมีอาการเป็นโรค   และตายในที่สุดประกอบกับในปัจจุบันสภาพของลำห้วยจะแห้งขอดเกือบตลอดปี    เนื่องจากลำห้วยตื้นเขินทำให้สภาพแวดล้อมในลำห้วยไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ตามระบบนิเวศน์
1.5  ด้านเศรษฐกิจ
 ประชาชนในเขต อบต. โดยมากร้อยละ  95  จะมีอาชีพเกษตรกรรม ทำนา รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำ หมู่ 4,12  ที่มีแม่น้ำพรมไหลผ่านจะมีโอกาสทำนาปรัง และปลูกพืชในฤดูแล้ง คือ พริก และถั่วเหลือง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นทำให้ระดับเศรษฐกิจในหมู่บ้านดี ส่วน หมู่ 1 มีอาชีพเสริมหลังจากการทำนา คือ ปลูกใบยาสูบ  สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนเพิ่มขึ้น  ในอัตราที่มากแต่เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย คือ ส่วนมากจะรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาจากพ่อแม่ทำให้ขาดการที่จะสร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับตัวเองโอกาสที่จะมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการอพยพแรงงานในฤดูแล้งในหลายหมู่บ้านที่พอหมดฤดูการทำการเกษตรแล้ว จำเป็นที่จะต้องไปหางานทำยังที่อื่น ๆ  เพื่อนำรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว เนื่องจากรายได้ที่ได้รับจาการเกษตรไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทำให้เกิดผลพวงตามมาคือปัญหาสังคม
1.6  ด้านสังคม
ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  นิยมตั้งบ้านเรือนเป็นกลุ่มโดยตั้งถิ่นฐานอยู่ริมเส้นทางคมนาคม  แหล่งน้ำ  เนื่องจากกระแสของโลกทุนนิยม ที่กำลังแผ่ อย่างเชี่ยวกรากในขณะนี้ ทำให้เกิดการบริโภคที่มากขึ้นสังคมชนบทของไทย  ตั้งแต่อดีตเป็นสังคมที่สงบสุข   มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนในชุมชนโดยมากเป็นชุมชนเกษตรกรรมเล็ก ๆ  จะมีความเอาใจใส่ดูแลกันอย่างดีทำให้สังคมอบอุ่นไม่มีปัญหาของการแก่งแย่งแข่งขัน แต่หลัง จากกระแสของโลกยุคใหม่ที่ประชาชนโดยทั่วไปแสวงหาความสุขสบายจากวัตถุมากขึ้น  การครอบครองวัตถุถือ เป็นค่านิยมใหม่ที่ต้องมีการแข่งขันราคาของวัตถุที่มีราคาแพงแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนหยุดการไขว่คว้าวัตถุเหล่านั้น จนทำให้สภาพสังคมในปัจจุบันมีการแข่งขันเพื่อหาเงินมาใช้ในการวัตถุต่างๆ ผู้คนเริ่มเดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัดมากขึ้นทิ้งให้ผู้สูงอายุ เด็กอาศัยอยู่บ้านตามลำพังครอบครัวที่เคยอบอุ่น  ผู้คนเคยอาศัยกันกลับกลายเริ่มมีความเห็นแก่ตัวอิจฉาแก่งแย่งทำให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆ เช่น วิกฤตปัญหาวัยรุ่นตามมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างที่การแก้ปัญหาด้วยวิธีง่ายๆ  จะสำเร็จผลได้

 


เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง

ชื่อ - สกุล  นางสาวอรณี   สูงภิไลย์
                 Miss Oranee  Sungphilai
ชื่อเล่น : กุ้ง
               Kung
เกิดวันที่ 11 เดือน กรกฎาคม  2536
               11 July,1993

ที่อยู่ 50 ม.13 บ้านวังม่วง  ตำบลหนองโพนงาม  อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ 36120
โทรศัพท์ : 082-78044xx
นิสัย : ขี้อาย พูดไม่ค่อยเก่ง โกรธง่ายหายเร็ว
วิชาที่ชอบ : คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์
งานอดิเรก : วาดรูป
กีฬาที่ชอบเล่น : บาสเก็ตบอล

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

My Friend 608 #62 Lovely

กิจจา ณัฐวุฒิ จิรัฎร์ เนติ ภานุพงษ์ มงคล อนุชิต อนุสรณ์ อภิสิทธิ์ กัญญารัตน์ กิดาการ กุสุมา จิราภณ์

My Friend 606 #62 Lovely

ก้องภพ ณัฐวุฒิ ดุสิต นฤดม นุพงษ์ วัชระ นภัทร สรศักดิ์ อนันต์ยศ อภิเดช กาญจนา ขนิษฐา จารุวรรณ

My Friend 604 #62 Lovely

เกียรติศักดิ์ คทาเพชร ณัฐพล (คำ)ณัฐพล(ถนอม) ธนากร พลรัตน์ พิศณุ รุ่งอรุณ เริงฤทธิ์ วรากร วุฒิพงษ์